วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

gallery

...

gallery

...

gallery

...

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การถนอมอาหารโดยการเชื่อม



การถนอมอาหารโดยการเชื่อม

 การเชื่อมแบบธรรมดา
            อาจเคี่ยวจนน้ำเชื่อมข้นเหนียว น้ำเชื่อมแทรกซึมเข้าในเนื้อของสิ่งที่เชื่อมแล้ว ใช้น้ำเชื่อมที่เหลือแช่หล่อไว้อีกชั้นหนึ่ง เช่น กล้วยเชื่อม สาเกเชื่อม ลูกตาลเชื่อม ขนุนเชื่อม เป็นต้น  หรืออาจเคี่ยวต่อไปจนน้ำเชื่อมแก่จัด เมื่อเย็นลงจะแห้งและแข็งตัว



การถนอมอาหารด้วยการแช่อิ่ม  
            เป็นการถนอมอาหารโดยใช้น้ำตาลปริมาณมาก คือ นำอาหารมาแช่ในน้ำเชื่อม และเปลี่ยนเพิ่มความเข้มข้นจนถึงจุดอิ่มตัวแล้วนำมาทำแห้ง มักใช้กับผลไม้ที่มีรสขม รสขื่น หรือรสเปรี้ยวจัด ทำให้สิ่งนั้นรสจืดลงเสียก่อนโดยวิธีต่าง ๆ เช่น แช่น้ำเกลือ แช่น้ำปูน แช่สารส้ม เป็นต้น ผลไม้ที่นิยมนำมาแช่อิ่ม เช่น มะม่วง มะขาม มะกอก มะยม เป็นต้น


การฉาบ
                เป็นการนำเอาผักหรือผลไม้ที่ทำสุกแล้ว เช่น เผือกทอด มันทอด กล้วยทอด เป็นต้น วิธีฉาบคือเคี่ยวน้ำตาลให้เป็นน้ำเชื่อมแก่จัดจนเป็นเกล็ด แล้วเทลงผสมคลุกเคล้ากับของที่ทอดไว้ ทิ้งไว้ให้เย็นจนน้ำเชื่อมเกาะเป็นเกล็ดติดอยู่บนผิวอาหารที่ฉาบ





การถนอมอาหารโดยการดอง



การถนอมอาหารโดยการดอง

การดองเปรี้ยว ผักที่นิยมนำมาดอง เช่น ผักกาดเขียว กะหล่ำปลี ผักเสี้ยน ถั่วงอก เป็นต้น 
                - ผัก ผลไม้  ปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นตัด หรือแต่งเป็นชิ้นส่วนตามต้องการ
              - เนื้อสัตว์ และไข่ เช็ดหรือล้างให้สะอาด
1.การเตรียมส่วนผสม  ทำได้หลายวิธีดังนี้...
     - ผสมกับน้ำ เข้าด้วยกัน ต้มให้เดือด กรองแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
     - ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำ เข้าด้วยกัน ต้มให้เดือด กรองแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
     - ผสมน้ำส้มสายชู  น้ำตาล  เกลือ  น้ำ และเครื่องเทศเข้าด้วยกัน ต้มให้เดือด กรองแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
2.บรรจุอาหารในภาชนะที่แห้งสะอาดและต้มฆ่าเชื้อแล้วเทส่วนผสมให้ท่วมอาหารถ้าชิ้นอาหารลอยให้ใช้ถุงพลาสติกบรรจุน้ำรัดปากถุงให้แน่นแล้ววางทับชิ้นอาหารให้จมในส่วนผสมปิดฝาให้สนิท
3.ในกรณีที่นำผักที่มีน้ำมากๆมาดองเปรี้ยวทำได้โดยการใช้เกลือคลุกเคล้ากับผักให้ทั่วเกลือจะช่วยดูดน้ำออกจากผักน้ำจะผสมกับเกลือเป็นน้ำเกลือ ซึ่งน้ำเกลือจะมีความเข้มข้นประมาณ5-8%บรรจุผักในภาชนะให้แน่น 3-5 วันจะเกิดกรดแลคติค  ทำให้ผักมีรสเปรี้ยว



การดอง 3 รส คือรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ผักที่นิยมดองแบบนี้คือ ขิง กระเทียมสด ผักกาดเขียว เป็นต้น
การดองชนิดนี้คือ นำเอาผักมาเคล้ากับเกลือแล้วผสมน้ำส้ม น้ำตาล เกลือ ต้มให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำมาเทราดลงบนผักปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ก็นำมารับประทานได้


การดองหวาน ผักและผลไม้ที่นิยมนำมาดอง เช่น มะละกอ หัวผักกาด กะหล่ำปลี เป็นต้น 
โดยต้มน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ ให้ออกรสหวานนำให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น เทราดลงบนผักผลไม้ ทิ้งไว้ 2-3วัน ก็นำมารับประทานได้


การดองเค็ม อาหารที่นิยมส่วนใหญ่จะเป็นพวกเนื้อสัตว์และผัก เช่น ปูเค็ม ปลาเค็ม กะปิ หัวผักกาด ไข่เค็ม เป็นต้น ต้มน้ำส้มสายชูและเกลือให้ออกรสเค็มจัดเล็กน้อยให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็นกรองใส่ภาชนะที่จะบรรจุอาหารดอง แล้วหมักทิ้งไว้ 4-9 เดือนจึงนำมารับประทาน


การหมักดอง ที่ทำให้เกิดแอลกอฮอล์ คือการหมักอาหารพวกแป้ง น้ำตาล โดยใช้ยีสต์เป็น
ตัวช่วยให้เกิดแอลกอฮอล์ เช่น ข้าวหมาก ไวน์ เป็นต้น



การถนอมอาหารประเภทต่างๆ



วิธีถนอมอาหาร

วิธีการถนอมอาหารมี มาตั้งแต่สมัยโบราณที่เกิดจากภูมิปัญญาไทย การถนอมอาหารช่วยให้สามารถเก็บ อาหารไว้บริโภคได้เป็นเวลานาน โดยที่อาหารนั้นไม่สูญเสียคุณภาพ ซึ่งวิธีการถนอมอาหารมีหลายวิธีสามารถทำ ได้เองและง่ายมาก

1. การถนอมอาหารโดยตากแห้ง  การถนอมอาหารโดยตากแห้งเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดมากที่สุด ใช้ได้กับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ เป็น วิธีที่ทำให้อาหารหมดความชื้นหรือมีความชื้นอยู่เพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้จุลินทรีย์สามารถเกาะอาศัยและเจริญเติบโตได้ ทำให้อาหารไม่เกิดการบูดเน่า โดยการนำน้ำหรือความชื้นออกจากอาหารให้มากที่สุด 



2. การถนอมอาหารโดยการดอง   การถนอมอาหารโดยการดอง โดย ใช้จุลินทรีย์บางชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ โดยจุลินทร์ทรีย์นั้นจะสร้างสารบางอย่างขึ้นมาในอาหาร ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ตัวอื่นๆได้ ดังนั้นผลของการหมักดองจะทำให้อาหารปลอดภัยจากจุลินทร์ทรีย์ชนิดอื่นๆ และยังทำให้เกิดอาหารชนิดใหม่ๆที่มีลักษณะแตกต่างไปจากเดิม เป็นการเพิ่มกลิ่น และรสชาติของอาหารให้แปลกออกไป




3. การถนอมอาหารโดยการเชื่อม การเชื่อมและการกวนเป็นวิธีถนอมอาหาร โดยอาศัยสารน้ำตาลป้องกันไม่ให้อาหารนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงบูดเน่าเสียหาย


4. การถนอมอาหารด้วยวิธีการกวน  การที่นำเนื้อผลไม้ที่สุกแล้วผสมกับน้ำตาล โดยใช้ความร้อน เพื่อกวนผสมให้กลมกลืนกัน โดยมีรสหวาน และให้เข้มข้นขึ้น



5. การทำแยม   การทำแยม เป็น การต้มเนื้อผลไม้ปนกับน้ำตาลด้วยไฟอ่อนในระยะแรก แล้วค่อย ๆ เพิ่มไฟขึ้นทีละน้อย หมั่นคนสม่ำเสมอ จนกระทั่งแยมเหนียวตามต้องการ กล่าวคือ เมื่อใช้ช้อนตักขึ้นแล้ว



6. การรมควัน  การรมควันเป็นการถนอมอาหารที่ต่างไปจากการ ตากแห้งธรรมดา นอกจากจะทำให้อาหารแห้งแล้ว ยังช่วยรักษาให้อาหารเก็บได้นาน มีกลิ่นหอมและรสชาติแปลกซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก การรมควันที่สามารถทำได้ในครอบครัวจะเป็นแบบธรรมชาติิโดยการสุมไฟด้วยไม้กาบ มะพร้าว ขี้เลื่อย ซางข้าวโพด ให้แขวนอาหารไว้เหนือกองไฟใช้ไฟอ่อนๆเพื่อให้รมควันอาหารไปพร้อมกับไอร้อนจะ ช่วยทำให้อาหารแห้งเร็ว


เครื่องเรือนที่ทำด้วยโลหะ


         เครื่องเรือนที่ทำด้วยโลหะ


วัสดุจำพวกโลหะมีคุณสมบัติแข็ง  ขัดเงาขึ้นแวววาว  นำความร้อนได้ดี  ในสมัยโบราณมีการทำเครื่องมือเครื่องใช้โดยใช้เนื้อโลหะบริสุทธิ์  เช่น  เงิน  ทองคำ  ทองแดง  ต่อมามีการพัฒนาเป็นพวกโลหะผสม  ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ยิ่งขึ้น  โลหะที่ทำเครื่องใช้ในบ้านของเรา  มีดังต่อไปนี้
1.เหล็ก  เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก  เช่น  มีด  จอบ  เสียม  และอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านอื่น    มีวิธีดูแลรักษา  ดังนี้
ใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของเครื่องมือ  เช่น  มีดสำหรับสับเนื้อ  ไม่ควรนำไปฟันไม้  เป็นต้น
·หลังจากใช้แล้วรีบทำความสะอาดทันที  โดยใช้น้ำสบู่ล้างออกจนสะอาด  หากสกปรกมากให้ใช้ฝอยขัดหรือแปรงขัด  แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด  เช็ดให้แห้ง
ควรทาน้ำมันเคลือบเป็นครั้งคราวเพื่อป้องกันสนิม
อย่าปล่อยให้เครื่องใช้ที่เป็นเหล็กถูกน้ำนาน ๆ หรือแช่น้ำนาน ๆ เพราะจะทำให้เป็นสนิม  ถ้ามีสนิมขึ้น  ให้ใช้ฝอยขัดสนิมให้หมด  เช็ดให้แห้ง  ใช้น้ำมันทากันสนิม แล้วเก็บเข้าที่
การเก็บรักษา เครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก  เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่ซอง  ปลอก  หรือเก็บไว้ในตู้ที่มิดชิด  ไม่วางไว้ในที่ลมพัดผ่าน  เพราะความชื้นจะทำให้เกิดสนิม


2.เครื่องเงิน  เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยโลหะเงิน  เช่น  ชุดน้ำชา  ขันเงิน  พาน  โดยธรรมชาติของเครื่องเงิน  ถ้าถูกอากาศจะเกิดปฏิกิริยา  ทำให้เครื่องเงินหมองคล้ำ  การดูแลรักษาควรปฏิบัติ  ดังนี้
ใช้แล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกทันที
ล้างด้วยน้ำยาขัดเงินโดยเฉพาะ  หรือน้ำมะนาวผสมสบู่  ขัดให้สะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ใช้น้ำอุ่นผสมสบู่ล้าง  แล้วขัดให้สะอาด
ห้ามใช้ใยขัดโลหะ  หรือฝอยขัดหม้อขัดเครื่องเงิน  เพราะอาจทำให้เป็นรอยขีดข่วน  และสึกหรอได้

การเก็บรักษา เครื่องเงินที่นำมาใช้ เมื่อทำความสะอาดแล้วควรเก็บใส่ถุง  ใส่กล่อง  แล้วนำเก็บเข้าตู้ไม่ให้ถูกอากาศ

 
3.อะลูมิเนียม  เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีน้ำหนักเบา  ไม่เป็นสนิม  จัดทำรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย  มักนำมาทำภาชนะเครื่องใช้  เช่น  หม้อ  กระทะ  ทัพพี  ถาด  ขันน้ำ  มีวิธีดูแลรักษาดังนี้
ใช้ฝอยขัดหม้อหรือแผ่นขัด  ขัดให้สะอาด  แล้วล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ห้ามใช้สารเคมีที่เป็นกรดอย่างเข้มข้นขัด
รอยไหม้บนอะลูมิเนียม  ห้ามใช้ไม้หรือเหล็กแคะ  ให้ต้มด้วยน้ำผสมเกลือให้เดือด  รอยไหม้จะกะเทาะออกไปเอง  หรือใช้ฝอยขัดหม้อขัด  แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

การเก็บรักษา เมื่อทำความสะอาดแล้ว  ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง  เก็บไว้ในตู้เก็บภาชนะเครื่องใช้



http://group.wunjun.com/krooboonsongs/topic/13947-348